การระบุตัวตนผิดพลาด: การกระทำของตำรวจไต้หวันนำไปสู่การตกลงและไตร่ตรอง

กรณีการจับกุมโดยมิชอบและใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับการประพฤติตนของตำ
การระบุตัวตนผิดพลาด: การกระทำของตำรวจไต้หวันนำไปสู่การตกลงและไตร่ตรอง

จากกรณีที่จุดประกายการถกเถียงในไต้หวัน เจ้าหน้าที่ตำรวจเหวิน ติง-หยู จากสถานีตำรวจหย่งฝูในซานชง นิวไทเปซิตี้ เข้าใจผิดระบุตัวพลเมือง หวง เหลียน-ซุ่น อดีตพลร่มหน่วยรบพิเศษ เป็นผู้หลบหนีที่ต้องการตัว แทนที่จะทำการตรวจสอบและยืนยันตัวตนอย่างถูกต้อง เจ้าหน้าที่เหวินกลับควบคุมตัวหวงอย่างรุนแรงโดยใช้กำลัง รวมถึงการใช้กำลังทำร้ายร่างกายด้วยการต่อยหน้าและฉีดพริกไทยใส่ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมระหว่างเกิดเหตุ

กระบวนการทางกฎหมายที่ตามมาทำให้ทั้งสองฝ่ายฟ้องร้องคดี การพิจารณาคดีครั้งแรกส่งผลให้ได้รับโทษจำคุก 5 เดือนโดยไม่มีทางเลือกในการเสียค่าปรับในข้อหาทำร้ายร่างกาย และกักขัง 10 วัน ซึ่งสามารถเปลี่ยนเป็นค่าปรับได้ในข้อหาข่มขู่ หลังจากยื่นอุทธรณ์ ศาลสูงไต้หวันได้ยืนยันคำตัดสินของศาลชั้นต้น เจ้าหน้าที่เหวินได้บรรลุข้อตกลงกับหวงโดยตกลงที่จะจ่าย NT$1.5 ล้านบาท ทำให้ได้รับทัณฑ์บน 3 ปี

ในการสัมภาษณ์หลังการพิจารณาคดี หวง เหลียน-ซุ่น กล่าวถึงเหตุผลในการให้อภัยว่า: การรับรู้ของสาธารณชนที่มีต่อกองกำลังตำรวจลดลง เขาตระหนักถึงการเกิดเหตุการณ์การกระทำผิดกฎหมายและการใช้อำนาจในทางมิชอบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนำไปสู่การสูญเสียความไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อตำรวจ เขายังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษากฎหมายและหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้มีจิตสำนึกในการรักษาระเบียบเรียบร้อย นอกจากนี้ เขายังแสดงความหวังว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนจะปฏิบัติหน้าที่ภายในขอบเขตของกฎหมาย โดยไม่เป็นอันตรายต่อประชาชน ปกป้องสิทธิมนุษยชน และใช้อำนาจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและสติปัญญา เขาเชื่อว่าการกระทำเหล่านี้มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ที่ดีของชาติและความหวังของประชาชน



Sponsor